๒๔๐ ปี ชุมชนบางไส้ไก่
Item
ชื่อเรื่อง
๒๔๐ ปี ชุมชนบางไส้ไก่
ลิขสิทธิ์
มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
ประเภท
บทความ
ผู้แต่ง
วัชรา คลายนาทร
วันที่
2566-03-21
รายละเอียด
พื้นที่รายรอบมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ประกอบ ด้วยชุมชนเก่าแก่หลายแห่งที่ยังคงสืบสานวัฒนธรรมและวิถีการดำรงชีวิตดั้งเดิม ของชุมชนให้ปรากฏมาจนถึงปัจจุบันดังเช่น ชุมชนวัดลาวหรือชุมชนบางไส้ไก่ใน พื้นที่ติดต่อกับมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ซึ่งเป็นชุมชนที่มีประวัติ ความเป็นมาล่วงมาถึง ๒๔๐ ปี ปัจจุบันชุมชนนี้เป็นแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรมดั้งเดิม ของชาวลาวที่อพยพจากเวียงจันทน์เข้ามาในกรุงธนบุรีอันสืบเนื่องมาจากสงคราม ระหว่างไทยกับลาวเมื่อ พ.ศ. ๒๓๒๑ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ ของประเทศไทยกับประเทศลาว เนื่องจากมีการอพยพชาวลาวจำนวนมากเข้ามาในกรุงธนบุรี ทั้งยังเกิดผลสืบเนื่องในทางการเมือง สังคมและวัฒนธรรมระหว่างประเทศทั้งสอง
สาเหตุการอพยพของชาวลาวในสมัยกรุงธนบุรี
สาเหตุเริ่มแรกเกิดจากความขัดแย้งกันเองภายในอาณาจักรลาวซึ่งใน สมัยก่อนเรียกว่า อาณาจักรล้านช้าง ในเวลานั้นแบ่งออกเป็นอาณาจักรอิสระ ๓ อาณาจักร ได้แก่ อาณาจักรล้านช้างหลวงพระบาง อาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ และอาณาจักรล้านช้างจำปาศักดิ์ โดยเฉพาะอาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์นั้น ได้เกิด เหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างพระมหากษัตริย์คือ เจ้าสิริบุญสาร (ครองราชย์ พ.ศ. ๒๒๗๓-พ.ศ. ๒๓๒๔) กับเสนาบดีคนสำคัญ ๒ ท่านคือ พระวอกับพระตา ซึ่งคาดว่า
เป็นพี่น้องกันต่างไม่พอใจเจ้าสิริบุญสารที่ไม่เห็นความสำคัญของตนจึงรวบรวมผู้คนไปตั้งถิ่นฐานใหม่ที่หนองบัวลุ่มภู (หนองบัวลำภูในปัจจุบัน) แต่ถูกเจ้าสิริบุญสารส่ง กองทัพมาปราบปรามจนพระตาเสียชีวิตในที่รบ พระวอจึงหลบหนีไปตั้งถิ่นฐานใหม่ ที่ดอนมดแดง (ปัจจุบันอยู่ในจังหวัดอุบลราชธานี) พร้อมกับส่งคนมาแจ้งต่อเจ้าเมืองนครราชสีมาขอพึ่งพระบรมโพธิสมภารสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ต่อมาพระวอ ได้เข้ามาอยู่ในอาณาจักรล้านช้างจำปาศักดิ์ เนื่องจากเจ้าผู้ครองอาณาจักรนี้สืบเชื้อสายมาจากพระตา แต่ภายหลังเกิดความบาดหมางใจกัน ครั้นเมื่อเจ้าสิริบุญสาร ส่งกองทัพเข้าปราบปรามพระวอเจ้าผู้ครองอาณาจักรล้านช้างจำปาศักดิ์ จึงมิได้ให้
ความช่วยเหลือ จึงเป็นเหตุให้พระวอเสียชีวิตในที่รบ เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินทรงทราบการศึกระหว่างเจ้าสิริบุญสาร ประกอบกับเจ้าสิริบุญสาร ซึ่งมีความขัดแย้งกับอาณาจักรล้านช้างหลวงพระบาง ได้หันไปสวามิภักดิ์ต่อพม่า สมเด็จพระเจ้าตากสิน จึงโปรดให้เจ้าพระยาจักรีกับเจ้าพระยาสุรสีห์ (คือรัชกาลที่ ๑ กับสมเด็จพระอนุชา) ยกกองทัพไปปราบปรามเจ้าสิริบุญสารที่เมืองเวียงจันทน์ เจ้าสิริบุญสารปราชัยหนี ออกจากเวียงจันทน์ราชโอรสองค์ใหญ่คือ เจ้านันทเสนทรงช้างศึกเข้าสู้รบกับกองทัพ ไทยเป็นเวลากว่า ๔ เดือนแต่ต้องประสบความพ่ายแพ้กองทัพไทยจึงนำชาวลาว
เวียงจันทน์และชาวลาวจากหัวเมืองอื่น ๆ เข้ามาในไทย และจัดแบ่งให้ชาวลาวจากหัวเมืองดังกล่าวให้ตั้งถิ่นฐานตามหัวเมืองต่าง 1 ของไทยส่วนชาวลาวเวียงจันทน์ได้นำมายังกรุงธนบุรีพร้อมกับราชโอรสและราชธิดาของเจ้าสิริบุญสาร (เติม วิภาคย์พจนกิจ, ๒๕๓๐)
ที่มา : วัชรา คลายนาทร. (๒๕๖๓). ๒๔๐ ปี ชุมชนบางไส้ไก่ . ใน ศรีสมเด็จ ๖๓ (๑๒๔-๑๓๖). สมาคมศิษย์เก่าบ้านสมเด็จเจ้าพระยาในพระบรมชูปถัมภ์.
สาเหตุการอพยพของชาวลาวในสมัยกรุงธนบุรี
สาเหตุเริ่มแรกเกิดจากความขัดแย้งกันเองภายในอาณาจักรลาวซึ่งใน สมัยก่อนเรียกว่า อาณาจักรล้านช้าง ในเวลานั้นแบ่งออกเป็นอาณาจักรอิสระ ๓ อาณาจักร ได้แก่ อาณาจักรล้านช้างหลวงพระบาง อาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ และอาณาจักรล้านช้างจำปาศักดิ์ โดยเฉพาะอาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์นั้น ได้เกิด เหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างพระมหากษัตริย์คือ เจ้าสิริบุญสาร (ครองราชย์ พ.ศ. ๒๒๗๓-พ.ศ. ๒๓๒๔) กับเสนาบดีคนสำคัญ ๒ ท่านคือ พระวอกับพระตา ซึ่งคาดว่า
เป็นพี่น้องกันต่างไม่พอใจเจ้าสิริบุญสารที่ไม่เห็นความสำคัญของตนจึงรวบรวมผู้คนไปตั้งถิ่นฐานใหม่ที่หนองบัวลุ่มภู (หนองบัวลำภูในปัจจุบัน) แต่ถูกเจ้าสิริบุญสารส่ง กองทัพมาปราบปรามจนพระตาเสียชีวิตในที่รบ พระวอจึงหลบหนีไปตั้งถิ่นฐานใหม่ ที่ดอนมดแดง (ปัจจุบันอยู่ในจังหวัดอุบลราชธานี) พร้อมกับส่งคนมาแจ้งต่อเจ้าเมืองนครราชสีมาขอพึ่งพระบรมโพธิสมภารสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ต่อมาพระวอ ได้เข้ามาอยู่ในอาณาจักรล้านช้างจำปาศักดิ์ เนื่องจากเจ้าผู้ครองอาณาจักรนี้สืบเชื้อสายมาจากพระตา แต่ภายหลังเกิดความบาดหมางใจกัน ครั้นเมื่อเจ้าสิริบุญสาร ส่งกองทัพเข้าปราบปรามพระวอเจ้าผู้ครองอาณาจักรล้านช้างจำปาศักดิ์ จึงมิได้ให้
ความช่วยเหลือ จึงเป็นเหตุให้พระวอเสียชีวิตในที่รบ เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินทรงทราบการศึกระหว่างเจ้าสิริบุญสาร ประกอบกับเจ้าสิริบุญสาร ซึ่งมีความขัดแย้งกับอาณาจักรล้านช้างหลวงพระบาง ได้หันไปสวามิภักดิ์ต่อพม่า สมเด็จพระเจ้าตากสิน จึงโปรดให้เจ้าพระยาจักรีกับเจ้าพระยาสุรสีห์ (คือรัชกาลที่ ๑ กับสมเด็จพระอนุชา) ยกกองทัพไปปราบปรามเจ้าสิริบุญสารที่เมืองเวียงจันทน์ เจ้าสิริบุญสารปราชัยหนี ออกจากเวียงจันทน์ราชโอรสองค์ใหญ่คือ เจ้านันทเสนทรงช้างศึกเข้าสู้รบกับกองทัพ ไทยเป็นเวลากว่า ๔ เดือนแต่ต้องประสบความพ่ายแพ้กองทัพไทยจึงนำชาวลาว
เวียงจันทน์และชาวลาวจากหัวเมืองอื่น ๆ เข้ามาในไทย และจัดแบ่งให้ชาวลาวจากหัวเมืองดังกล่าวให้ตั้งถิ่นฐานตามหัวเมืองต่าง 1 ของไทยส่วนชาวลาวเวียงจันทน์ได้นำมายังกรุงธนบุรีพร้อมกับราชโอรสและราชธิดาของเจ้าสิริบุญสาร (เติม วิภาคย์พจนกิจ, ๒๕๓๐)
ที่มา : วัชรา คลายนาทร. (๒๕๖๓). ๒๔๐ ปี ชุมชนบางไส้ไก่ . ใน ศรีสมเด็จ ๖๓ (๑๒๔-๑๓๖). สมาคมศิษย์เก่าบ้านสมเด็จเจ้าพระยาในพระบรมชูปถัมภ์.
รูปแบบ
application/pdf
แหล่งที่มา
อ 378.593 ม246ศ 2563
ภาษา
tha
สำนักพิมพ์
มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ
หัวเรื่อง
ชุมชนบางไส้ไก่
ชุมชนวัดลาว
บุคคลสำคัญ
คอลเลกชั่น
วัชรา คลายนาทร, “๒๔๐ ปี ชุมชนบางไส้ไก่”, มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ, 2566-03-21, คลังข้อมูลประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา, accessed November 26, 2024, http://202.29.54.157/s/information/item/2640